วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก

3 มีนาคม “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก” (World Wildlife Day)

              จากการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมประเทศภาคีสมาชิกอนุสัญญาไซเตส ครั้งที่ 16 (CITES COP16)ระหว่างวันที่ 3 – 14 มีนาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ที่ผ่านมา ประเทศไทยโดยการหารือร่วมกับสำนักงานเลขาธิการไซเตส ได้เสนอที่ประชุมฯ กำหนดให้วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก” (World Wildlife Day) เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้มวลมนุษยชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า และคุณประโยชน์หลากหลายด้านนิเวศวิทยา พันธุกรรม สังคม เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ การศึกษา วัฒนธรรม นันทนาการและสุนทรียศาสตร์ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและความอยู่ดีของมนุษย์

             นอกจากนี้ยังให้ตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทอนุสัญญาไซเตส เพื่อความเชื่อมั่นการค้าระหว่างประเทศจะไม่คุกคามความอยู่รอดของชนิดพันธุ์ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของโลกให้คงดำรงอยู่สืบต่อไป

             โดยที่ประชุม COP16 ในงานดังกล่าว ได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบในการกำหนดให้วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก” และในการประชุมเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 68 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ให้การรับรองและได้ประกาศให้ วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก” เพื่อให้เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าโลกด้วย

             ทั้งนี้ วันที่ 3 มีนาคม ที่ถูกกำหนดขึ้นเนื่องมาจากเป็นวันที่มีการลงนามรับรองอนุสัญญา CITES ดังกล่าว ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี เมื่อปี พ.ศ. 2516


            ในส่วนของประเทศไทยปีนี้ (2557) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะมีการจัดงานวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก จัดกิจกรรมขึ้นเป็นปีแรกพร้อมกันกับทั่วโลก ในวันที่ 3 มีนาคม 2557 นี้ ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี และมีกิจกรรมปล่อยสัตว์ป่า คืนสู่ธรรมชาติ ทำโป่งเทียม ปลูกพืชอาหารสัตว์ป่า ดูแลสุขภาพสัตว์ป่า และเสวนาทางวิชาการในหัวข้อ “พัฒนาการ การจัดการพื้นที่อนุรักษ์ในประเทศไทย : มาตรฐานไทยสู่มาตรฐานสากล ” อีกด้วย







Credit : http://www.seub.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1177:library&catid=115:event&Itemid=145